บทความดีๆ เกี่ยวกับน้ำเสริมฮวงจุ้ย
ฮวงจุ้ยนั้นเป็นเรื่องการบริหารพลังธรรมชาติของลมและน้ำเป็นหลักโดย เคล็ดวิชาได้กล่าวว่าลมนั้นนำพาพลังส่วนน้ำนั้นสะสมพลัง แต่อย่างไรก็ตามน้ำก็เป็นสิ่งที่ใช้ในการนำพาพลังได้เนื่องจากคุณสมบัติที่ไหลได้ของมันนั้นเอง หากอ้างถึงสิ่งของที่ไหลได้ในเชิงวิศวกรรมนั้นก็จะมีลมกับน้ำที่เป็นวัตถุที่ไหลได้ เมื่อลมนั้นนำพาพลังได้น้ำนั้นก็ทำนำพาพลังได้เช่นกัน ซึ่งเราก็จะสามารถใช้ทั้งน้ำและลมในการเหนี่ยวนำกระแสพลังที่ดีนั้นให้ไหลเข้าสู่บ้านหรืออาคารต่างๆ ขณะเดียวกันก็ต้องนำพลังที่เสื่อมให้ไหลออกนอกบ้านหรืออาคารได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้น้ำในเชิงของฮวงจุ้ยกัน
น้ำนั้นสามารถสะสมพลังได้ตัวอย่างเช่นเมื่อเราสังเกตเวลาเราไปเล่นน้ำที่ทะเลนะช่วงเช้าประมาณ 7 – 8 โมงซึ่งเป็นเวลาที่แดดนั้นออกแล้วแต่เรายังรู้สึกน้ำนั้นเย็นอยู่เพราะเนื่องจากน้ำสะสมพลังความเย็นจากเวลากลางคืนนั้นเอง สาเหตุที่น้ำนั้นสะสมพลังความเย็นได้นั้นเนื่องจากมีคุณสมบัติที่คลายความร้อนได้ช้ากว่าพื้นดินทั่วไปและน้ำก็ยังดูซับความร้อนได้ช้ากว่าพื้นดินอีกด้วย ดังนั้นน้ำจึงสามารถช่วยสร้างความเย็นให้กับบ้านและอาคารสถานที่ต่างๆได้อีกด้วยเพราะคุณสมบัติการคลายความร้อนที่ช้านี่เอง แต่อย่างไรก็ตามการมีบ่อน้ำที่จะสะสมพลังให้เกิดความเย็นได้จะต้องมีความลึกเพียงพอซึ่งควรจะลึก 1.5 เมตรเป็นอย่างน้อย เช่นเดียวกับเรื่องความเย็นที่น้ำนั้นสะสม พลังธรรมชาติต่างๆก็เกิดการดูดซึมโดยน้ำได้ ดังนั้นจึงสามารถมองได้ว่าน้ำนั้นเป็นตัวสะสมพลังต่างๆ
ส่วนการนำพาพลังจากนั้นเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งหากเป็นแม่น้ำนั้นจะสั่งเกตุได้อย่างชัดเจนว่าน้ำนั้นจำพาตะกอนมาสะสมตัวอยู่ได้นั้นหมายความว่าน้ำนั้นสามารถนำพาสิ่งต่างๆได้ สังเกตได้จากบริเวณแม่น้ำภายในโค้งตะกอนจะสะสมตัวทำให้พื้นที่ดินในโค้งนั้นขยายมากขึ้นเรื่อยได้ ลักษณะการไหลของน้ำนั้นจึงสามารถนำพาพลังได้ จึงเป็นสาเหตุให้ซินแสสมัยก่อนนิยมบ้านที่มีหน้าบ้านเป็นสายน้ำและดูแนวของกระแสน้ำนั้นเหมือนแนวกระแสที่จ่ายพลังมาสู่บ้าน
นอกจากนี้การที่น้ำนั้นเคลื่อนไหวก็นำพาพลังได้เช่นการตั้งน้ำพุซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการกระจายของพลังงานที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่น้ำที่เคลื่อนไหวแต่ยังทำให้อากาศหรือลมนั้นเคลื่อนไหวด้วยเนื่องจากน้ำพุนั้นแหวกอากาศและแรงตกกระทบของน้ำที่พุ่งขึ้นไปสู่บ่อน้ำนั้นก็ก่อให้เกิดการกระแทกของอากาศอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นสภาพการกระแจพลังอย่างชัดเจน ซึ่งโอ่งน้ำล้นก็มีหลักการเคลื่อนไหวของน้ำคล้ายกับสภาพน้ำพุหรือเหมือนน้ำพุเล็กๆในโอ่งเท่านั้นโดยมีการกระจายพลังที่น้อยกว่าน้ำพุ ส่วนน้ำตกนั้นก็มีการเคลื่อนที่ของน้ำในลักษณะการไหลจากที่สูงลงต่ำก็ทำให้เกิดการกระแทกของน้ำและอากาศเพียงแต่จะต้องมีการตั้งให้น้ำตกนั้นหันมาให้ถูกทิศทางซึ่งการตั้งน้ำตกนั้นถ้าทิศทางที่ดีนั้นหรือมีพลังที่ดีก็ต้องหันน้ำไหลและตกมาสู่ช่องเปิดที่เป็นประตู หน้าต่าง ช่องลมของบ้านและอาคาร ซึ่งต่างจากน้ำพุและโอ่งน้ำล้นที่มีการกระจายพลังรอบทิศทางอย่างเท่าๆกัน
ขอบคุณบทความดีจาก Baan natura นะคะ |